กลุ่มอาชีวะช่วยชาติรวมพลังปกป้องสถาบันชาติศาสน์ กษัตริย์ รวมกลุ่มชุมนุมกันที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยพร้อมแสดงจุดยืนขอให้ทุกฝ่ายหยุดก้าวล่วงสถาบัน โดยนายทศพล มนูญญรัตน์ ตัวแทนกลุ่มอาชีวะช่วยชาติ อ่านแถลงการณ์ “เพื่อประชาธิปไตยด้วยใจจงรักภักดี” จากกรณีที่กลุ่มเยาวชนปลดแอก และ สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษา แห่งประเทศไทย หรือ สนท. จัดกิจกรรมทางการเมืองขึ้น ตั้งแต่ 18ก.ค.2563 ซึ่งต่อมาได้มีการจัดกิจกรรมในลักษณะเช่นเดียวกันนี้ หลายพื้นที่ทั่วประเทศ

โดยกิจกรรมดังกล่าวแม้จะยื่นข้อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกและยุบสภา แก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้เป็นประชาธิปไตย แต่ปรากฏหลักฐานและข้อเท็จจริงว่ามีการแสดงออกเพื่อ ต้องการ ท้าทาย ต่อต้าน หรือล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม อีกทั้งยังมีการนำข้อมูลอันเป็นเท็จหรือเฟคนิวส์เพื่อปลุกระดมให้เกิดความเข้าใจผิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับข้อเรียกร้องวัตถุประสงค์ของการ ชุมนุมเพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐบาลแต่อย่างใด อีกทั้งเป็นการชุมนุมที่ศูนย์ทุกอย่างที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงขึ้นในสังคม แต่กระนั้นทางแกนนำการชุมนุมกลับบ่ายเบี่ยงปฏิเสธโดยยืนกรานไม่รู้ไม่เห็นกับหลักฐานและข้อเท็จจริงดังกล่าว
ซึ่งการกระทำที่ท้าทายและต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ดังกล่าวนี้ได้สร้างความสับสน และความกังวลให้กับประชาชนทั่วไปกว้างว่าจะส่งผลต่อการควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งประชาชนทั่วประเทศได้ให้ความร่วมมือร่วมใจกันแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนเป็นที่ประจักษ์ไปทั่วโลก

ทางกลุ่มอาชีวะช่วยชาติซึ่งมีความจงรักภักดีและเห็นว่าชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ยังเป็นหมุดหมายที่สำคัญของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงขอแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์การชุมนุมที่เกิดขึ้น กลุ่มอาชีวะช่วยชาติมิได้ต่อต้านการชุมนุมทางการเมืองโดยเจตนาเพื่อรักษาประชาธิปไตย แต่ต้องตำหนักถึงการกระทำที่ไม่ก้าวล่วงไปในขอบเขตที่อาจนำพาสังคมไทยเสี่ยงต่อการเผชิญหน้ากันด้วยความรุนแรง
ทั้งนี้ทางกลุ่มอาชีวะช่วยชาติ จะเคลื่อนไหวโดยจะดำเนินกิจกรรมให้ข้อมูลและข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และเจตนาที่แท้จริงของผู้ที่อยู่เบื้องหลังการใช้เยาวชนเป็นเครื่องมือในการต่อต้านล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ภายหลังการอ่านแถลงการณ์ ผู้ชุมนุมได้ชู 3 นิ้ว ที่หมายถึง “ชาติ ศาสน์ กษัตริย์” ก่อนเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” และร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนแยกย้ายจากพื้นที่
ขณะที่บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก โดยมีกลุ่มมวลชน ซึ่งส่วนใหญ่ใส่เสื้อสีเหลือง เดินทางเข้ามาร่วมแสดงจุดยืน กันจนเต็มพื้นที่ บริเวณริมฟุตบาท ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนสตรีวิทยา ถนนราชดำเนินกลาง ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ชุมนุม ได้นำป้าย ที่มีข้อความแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และข้อความที่ระบุว่าอย่าก้าวล่วง และอย่าแตะต้องสถาบันฯ พร้อมนำธงชาติ

มาโบกสะบัดเป็นการแสดงออก ถึงจุดยืน ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัย ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ชนะสงคราม และ สน.สำราญราษฎร์ ทั้งในและนอกเครื่องแบบ มาดูแลความสงบเรียบร้อย โดยก่อนการแถลงจุดยืนได้เข้าแจ้งกับแกนนำ ถึงข้อกฎหมายในการชุมนุม ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยเน้นย้ำถึงการเว้นระยะห่าง และการชุมนุมโดยไม่กระทบสิทธิของผู้อื่น นอกจากนี้ยังมีมวลชนจากกลุ่มชาวนาที่เดินทางเข้ามาร่วมสมทบ กับกลุ่มอาชีวะช่วยชาติอีกด้วย
นายทศพร ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงกรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่าแอดมินเพจเคยเป็นแนวร่วม กปปส. ว่า กลุ่มอาชีวะช่วยชาติก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2556 แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนแอดมินเพจเป็นตนเองแล้ว ยืนยันว่าแอดมินคนเดิมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเพจแล้ว ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านมองว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มมีรัฐบาลอยู่เบื้องหลังนั้นยืนยันว่าไม่เป็นความจริง การเคลื่อนไหวครั้งนี้มีเพียงตนและเพื่อนอีก 2 คน ที่ร่วมกันคิดและดำเนินการจัดกิจกรรมขึ้น
ส่วนความเคลื่อนไหวหลังจากนี้ ยังไม่สามารถตอบได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ วันนี้เป็นเพียงการแถลงจุดยืน และยังไม่อยากยกระดับไปถึงขั้นชุมนุม เนื่องจากยังมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจและโรคระบาดที่ทำให้ประเทศไทยเสียหายอย่างมาก การออกมาชุมนุมอาจทำให้ประเทศเสียหายมากกว่าเดิม
ทั้งนี้หากกลุ่มเยาวชนปลดแอกหรือผู้อยู่เบื้องหลังยังมีพฤติกรรมต่อต้านหรือล้มมล้างสถาบัน กลุ่มอาชีวะช่วยชาติอาจจะออกมาเคลื่อนไหว แต่ยืนยันว่าจะไม่มีความรุนแรงหรือการเผชิญหน้าเกิดขึ้นและขออย่านำสถานการณ์นี้ไปเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ในอดีตเพราะแตกต่างกัน ส่วนจะมีการเรียกร้องให้ใช้มาตรา 112 กับคนที่ถือป้ายข้อความไม่เหมาะสมหรือไม่นั้น ขอให้เป็นเรื่องขอให้เป็นเรื่องทางกฎหมาย ทางกลุ่มมีหน้าที่อย่างเดียวคือปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
ทางกลุ่มอาชีวะช่วยชาติ ซึ่งมีความจงรักภักดีและเห็นว่า ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ยังเป็นหมุดหมายที่สำคัญของระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข จึงขอแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์การชุมนุมที่เกิดขึ้นทางกลุ่มอาชีวะช่วยชาติ มิได้ ต่อต้านการชุมนุมทางการเมืองด้วยเจตนาเพื่อรักษาประชาธิปไตย แต่ต้องตระหนักถึงการกระทำที่ไม่ก้าวล่วงไปในขอบเขตที่อาจนำสังคมไทยเสี่ยงต่อการเผชิญหน้ากันด้วยความรุนแรงเหมือนเมื่อครั้งที่เคยเกิดขึ้นแล้วในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519
สำหรับข้อเรียกร้อง กลุ่มเยาวชนปลดแอกทั้ง 3 ข้อ ตัวแทนกลุ่มอาชีวะช่วยชาติระบุว่าไม่ได้ต่อต้านหรือสนับสนุน เพราะเข้าใจหลักสิทธิมนุษยชน แต่ขอฝากถึงกระทรวงที่ดูแลด้านการใช้โซเชียลมีเดีย ให้ดำเนินการตรวจสอบบุคคลที่ใช้โซเชียลเผยแพร่ข้อมูลจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์
พร้อมฝากถึงผู้อยู่เบื้องหลังการชุมนุมของนักศึกษา ว่าให้ระวังตัวและหยุดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 29 ก.ค. 63 เพจกลุ่มอาชีวะช่วยชาติ ได้ออกประกาศจุดประสงค์ของการนัดชุมนุมไว้ก่อนแล้วว่า เป็นเพียงการออกมาแสดงจุดยืนเพื่อการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์เท่านั้น ซึ่งหลังจากเสร็จการแถลงการณ์ทางกลุ่มอาชีวะช่วยชาติ ได้ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ไม่ใช่การก่อม็อบหรือชุมนุมแต่อย่างใด หลังจากยืนชุมนุมกันจนเหนื่อยแล้ว อย่าลืมกลับมาดู7 ท่าออกกำลังกายสร้างสุขภาพ สำหรับมือใหม่กันด้วย รอบหน้าถ้ามีชุมนุมอีกจะได้ไม่เหนื่อยมาก
เกมที่น่าสนใจเล่นแล้วได้เงิน แนะนำเกมสล็อต CLUSTER MANIA ลุ้นโบนัสจากเกมได้ตลอด 24 ชั่วโมง